
บริการขัดเคลือบสีรถยนต์เงาวิ้ง ฟื้นฟูสภาพรถเหมือนใหม่
ขัดสีรถลบรอยขูด รอยขนแมว พร้อมเคลือบสีรถ คืนความเงางามเหมือนออกรถวันแรก ดูแลโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
รถยนต์ที่ดูเงางาม สะอาดตา และปราศจากรอยขีดข่วนเป็นความฝันของเจ้าของรถทุกคน การขัดเคลือบสีรถยนต์ เป็นวิธีการดูแลรถที่สามารถทำให้รถเก่ากลับมาดูดีเหมือนใหม่และช่วยรักษารถใหม่ให้คงความสวยงามได้ยาวนานยิ่งขึ้น
![[Pantherpard] SEO JUL C01 1 1500x1000 บริการขัดเคลือบสีรถยนต์เงาวิ้ง ฟื้นฟูสภาพรถเหมือนใหม่](https://www.pantherpard.com/wp-content/uploads/2025/07/Pantherpard-SEO-JUL-C01-1_1500x1000.jpg)
การขัดเคลือบสีรถยนต์
การขัดเคลือบสี คือ กระบวนการฟื้นฟูสภาพพื้นผิวสีรถให้กลับมาเงางามอีกครั้งโดยการใช้เครื่องขัดและน้ำยาขัดเฉพาะทางเพื่อขจัดชั้นแลคเกอร์หรือชั้นผิวบนสุดของสีรถที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ มีรอยขีดข่วน รอยขนแมว คราบสกปรกฝังแน่น หรือรอยด่างออกไป จากนั้นจึงทำการเคลือบสีรถเพื่อสร้างชั้นฟิล์มป้องกันขึ้นมาอีกครั้ง ช่วยให้ผิวสีเรียบเนียนขึ้น สะอาดขึ้น และเผยให้เห็นสีรถที่สดใสเหมือนใหม่
ขัดเคลือบสีรถกับ PANTHERPARD
PANTHERPARD ศูนย์ทำความสะอาดรถครบวงจรที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมให้บริการล้างรถ ขัดเคลือบสี และบริการเสริมอื่นๆ
ทำไมต้องเลือก PANTHERPARD
ทีมงานมืออาชีพ
ช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการขัดเคลือบสีรถยนต์อย่างถูกวิธี หมดกังวลเรื่องสีด่าง สีบาง และสีไหม้ พร้อมให้คำแนะนำการดูแลรถยนต์อย่างเหมาะสม
อุปกรณ์ทันสมัย
เราเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทางที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบการดูแลที่ดีที่สุด ประกอบกับการใช้อุปกรณ์ตามจุดอย่างเหมาะสม
แยกอุปกรณ์สำหรับช่วงล่างและสีรถออกจากกัน ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนกับตัวรถ
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
เลือกใช้น้ำยาขัด และน้ำยาเคลือบสีรถจากแบรนด์ชั้นนำ มั่นใจได้ถึงคุณภาพของการขัดและเคลือบสีรถยนต์
ขั้นตอนการขัดเคลือบสีรถยนต์
ที่ PANTHERPARD ทีมงานของเราปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด มั่นใจได้ว่าสีรถของคุณจะกลับมาสวยเงางาม

Step 1 การเตรียมผิว
ล้างทำความสะอาดรถให้ กำจัดฝุ่นและ
สิ่งสกปรก และเช็ดรถให้แห้งสนิททั้งหมด

Step 2 การประเมินสภาพ
ตรวจสอบรอยขีดข่วน คราบสกปรกฝังแน่น และความเสียหายของผิวสี

Step 3 การขัดปรับสภาพ
ใช้เครื่องขัดและน้ำยาขัดเพื่อขัดสีรถ ลบรอยขูดและความหมองคล้ำของชั้นแลคเกอร์

Step 4 การขัดเงา
ขัดให้ผิวสีเรียบเนียนและเงางาม
พร้อมสำหรับการเคลือบ

Step 5 การเคลือบสี
ทาน้ำยาเคลือบชั้นแรกให้กระจายสม่ำเสมอ
ต่อด้วยการเคลือบชั้นที่สองเพิ่มความคงทนและความเงางาม

Step 6 การขัดเงาชั้นสุดท้าย
ขัดเงาให้ได้สีเคลือบเงาที่สวยงาม
ฟื้นฟูสีรถให้เหมือนใหม่
ข้อดีของการขัดเคลือบสีรถ
ขัดเคลือบสีรถดีไหม? การขัดเคลือบสีรถนั้นมีข้อดีและมอบประโยชน์มากมายที่ตอบโจทย์คนรักรถ ดังนี้

1. ขจัดรอยขีดข่วนและคราบฝังแน่น
นี่คือข้อดีอันดับแรกของการขัดเคลือบสี ไม่ว่าจะเป็น รอยขนแมว ที่เกิดจากการเช็ดล้าง รอยขีดข่วนตื้นๆ จากการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือคราบสกปรกฝังแน่นที่การล้างปกติเอาไม่ออก การขัดสีจะช่วยกำจัดสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พื้นผิวสีรถกลับมาเรียบเนียน
นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติ Hydrophobic ของสารเคลือบ ทำให้หยดน้ำ
ฝุ่นละออง หรือคราบสกปรกต่างๆ ไม่สามารถยึดเกาะกับผิวสีรถได้ง่าย ทำให้คราบสกปรกไหลออกไปพร้อมกับน้ำ หรือสามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้การล้างรถทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้น และไม่ต้องออกแรง
ขัดถูมากนัก

2. ฟื้นฟูความเงางามและสีที่ซีดจาง
เมื่อรถต้องเผชิญกับแสงแดดจัด มลภาวะ และฝุ่นละอองเป็นเวลานาน
ชั้นแลคเกอร์ ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของสีรถจะค่อยๆ เสื่อมสภาพ เกิดเป็นฝ้าขาว ความหมองคล้ำ หรือสีซีดจาง การขัดสีจะช่วยขจัดชั้นผิวที่เสื่อมสภาพนี้ออก เผยให้เห็นชั้นสีที่สดใสและเงางามเหมือนใหม่ ส่วนสารเคลือบสีจะช่วยเพิ่ม
ความเงางามให้กับผิวสีรถอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สีรถดูฉ่ำลึกมีมิติและสะท้อนแสงได้ดีเยี่ยม

3. สร้างชั้นฟิล์มปกป้องสีรถจากปัจจัยภายนอก
การเคลือบสีจะสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ที่มองไม่เห็นแต่มีประสิทธิภาพสูง เคลือบอยู่บนผิวสีรถ ชั้นฟิล์มนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันอันตรายจาก
- รังสียูวีจากแสงแดด – สาเหตุหลักที่ทำให้สีรถซีดจางและแตกร้าว
- มลภาวะและสารเคมี – เช่น ฝุ่นควัน ละอองเกสร ไอเสียรถยนต์ ที่สามารถทำลายผิวสีได้
- คราบสกปรกต่าง ๆ – เช่น มูลนก ยางไม้ คราบน้ำ คราบแมลง ซึ่งหากทิ้งไว้นานจะกัดกร่อนผิวสี
- รอยขีดข่วนขนาดเล็ก – โดยเฉพาะการเคลือบแก้วหรือเซรามิก สามารถช่วยป้องกันรอยขนแมวที่เกิดจากการเช็ดล้างหรือสัมผัสได้ในระดับหนึ่ง

4. ปรับสภาพผิวสีให้เรียบเนียน
การขัดสีเป็นการปรับระดับผิวสีให้เสมอกัน ช่วยลดความหยาบกระด้างที่อาจเกิดจากการเกาะของฝุ่นละอองเล็ก ๆ หรือละอองสีที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ผิวที่เรียบเนียนจะสะท้อนแสงได้ดีกว่า ทำให้รถดูเงางามและมีความลึกของสีมากขึ้น

5. ยืดอายุการใช้งานของสีรถ
การเคลือบสีช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของสีรถได้เป็นอย่างดี ทำให้สีรถคง
ความสดใสและเงางามได้ยาวนานขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำสีใหม่หรือการดูแลรักษาสีรถในระยะยาว

6. รักษามูลค่าของรถ
รถยนต์ที่มีสภาพสีดี เงางาม และได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ย่อมมีมูลค่าสูงกว่าเมื่อถึงเวลาต้องการขายต่อ ซึ่งการขัดสีและเคลือบสีมีส่วนสำคัญในการรักษาสภาพภายนอกของรถให้ดูดีอยู่เสมอ
เคลือบสีกับขัดเคลือบสีต่างกันยังไง
การเคลือบสีรถทั่วไป | การเคลือบแก้วรถ | |
จุดประสงค์ | สร้างปกป้องและเพิ่มความเงางาม อาจช่วยกลบรอยขีดข่วนเล็กน้อยบางส่วน | ฟื้นฟูชั้นสี พร้อมลบรอยขีดข่วนจากการใช้งาน แล้วจึงเคลือบสีเพิ่มความเงางาม |
ความเหมาะสม | การเคลือบสี เหมาะกับรถใหม่หรือรถที่มีชั้นแลคเกอร์ที่อยู่ในสภาพที่ดีอยู่แล้ว | การขัดเคลือบสี เหมาะกับรถที่ผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่ง มีรอยขีดข่วน สีหมอง หรือชั้นสีเสื่อมสภาพ |
ผลลัพธ์ | เพิ่มความเงางาม กลบรอยตื้น และปกป้องชั้นสี | ลบรอยขีดข่วน ฟื้นฟูสี และเพิ่มการปกป้องชั้นสี |
ขัดเคลือบสีรถราคาเท่าไหร่?
บริการขัดเคลือบสีรถมีราคาจะแตกต่างกันขึ้นผู้ให้บริการ ประเภทของสารเคลือบ และขนาดของรถยนต์ โดยที่ PANTHERPARD
นำเสนอค่าบริการขัดเคลือบสีในราคาที่คุ้มค่า ดังนี้
รถยนต์ไซส์ S, M
3,500.-
รถยนต์ไซส์ L, XL
4,000.-
รถ VAN
4,500.-
ร้านคาร์แคร์ ล้างอัดฉีด อบโอโซน ใกล้ฉัน อย่าง PANTHERPARD พร้อมมอบบริการขัดเคลือบสีและบริการเสริมที่ครอบคลุมทุกความต้องการแบบครบจบในที่เดียว สามารถสมัครสมาชิก สะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษ และพบกับโปรโมชันดีๆ ตลอดปี
ติดต่อจองคิว สอบถามบริการ PANTHERPARD
LINE Official: @pantherpard (https://lin.ee/Tt6ahYz)
โทร.: 06-1597-9749
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเคลือบสี
1. การขัดสีและการเคลือบสีต่างกันอย่างไร?
การขัดสี (Polishing) เป็นการ ฟื้นฟูและแก้ไข สภาพผิวสีรถที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยถึงปานกลาง รอยขนแมว คราบสกปรกฝังแน่น หรือรอยด่างต่างๆ โดยการใช้เครื่องขัดและน้ำยาขัดเฉพาะทางเพื่อขจัดชั้นแลคเกอร์ (Clear Coat) ที่เสียออกไป เผยให้เห็นสีรถที่สดใสและเรียบเนียนเหมือนใหม่
การเคลือบสี (Coating) เป็นการ ปกป้องและบำรุงรักษา สีรถหลังจากที่ผิวสีได้รับการแก้ไขและฟื้นฟูแล้ว โดยการสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ขึ้นมาปกคลุมผิวสี เพื่อป้องกันรังสียูวี มลภาวะ คราบสกปรก และเพิ่มความเงางามฉ่ำลึก
สรุปง่ายๆ การขัดสีคือ “การเอาของเสียออก” ส่วนเคลือบสีคือ “การเพิ่มของดีเข้าไป” เพื่อปกป้องและเสริมความเงางาม
2. รถใหม่ รถป้ายแดง จำเป็นต้องขัดเคลือบสีไหม?
รถใหม่ป้ายแดงส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องขัดสีเพราะชั้นแลคเกอร์มักจะยังสมบูรณ์ดี แต่อาจมีข้อยกเว้นในกรณีที่รถเกิดรอยหรือคราบต่างๆ ขึ้นมาจากการขนส่งหรือส่งมอบ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เคลือบสีรถใหม่ป้ายแดง เพราะเป็นการสร้างเกราะป้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม ช่วยรักษาสภาพสีรถให้เงางามและคงทนยาวนาน ป้องกันความเสียหายจากมลภาวะ แสงแดด และลดการเกาะติดของสิ่งสกปรกตั้งแต่ยังเนิ่นๆ ทำให้ดูแลรักษาง่ายขึ้นในระยะยาว
3. ขัดเคลือบสีรถบ่อยๆ ดีไหม?
ไม่ควรขัดสีบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะเป็นการนำเอาชั้นแลคเกอร์ออกไปทีละน้อย โดยทั่วไปแนะนำให้ทำเมื่อสีรถเริ่มหมองคล้ำ มีรอยขีดข่วนสะสมมาก หรือประมาณปีละ 1 ครั้ง หรือ 2-3 ปีครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา ทั้งนี้สามารถเคลือบสีได้บ่อยกว่าขึ้นอยู่กับประเภทของสารเคลือบ เช่น การแว็กซ์สามารถทำได้ทุกๆ 1-3 เดือน หรือเคลือบแก้วทุกๆ 6-12 เดือน เพื่อยืดอายุการใช้งาน
4. ใช้เวลานานแค่ไหนในการขัดสีและเคลือบสี?
ระยะเวลาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของรถ สภาพสีรถ และประเภทของบริการเคลือบสี การขัดสีอย่างเดียวอาจใช้เวลานานตั้งแต่ 3-8 ชั่วโมง ส่วนการเคลือบสีอาจใช้เวลาเพิ่มอีก 2-4 ชั่วโมง ดังนั้นควรสอบถามระยะเวลาและจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้า
5. ข้อควรระวังหลังการขัดและเคลือบสีมีอะไรบ้าง?
เพื่อให้ชั้นเคลือบเซ็ตตัวได้อย่างสมบูรณ์และคงทน ควรทำตามข้อแนะนำเหล่านี้
- งดล้างรถ – โดยเฉพาะหลังการเคลือบสีหรือเคลือบแก้ว ควรงดล้างรถอย่างน้อย 7 วัน หรือตามคำแนะนำของผู้ให้บริการ เพื่อให้ชั้นเคลือบเซตตัวได้เต็มที่
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ/คราบสกปรก – ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หากรถเปียกฝนหรือมีคราบสกปรกติด แนะนำให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วซับให้แห้งทันที
- ล้างรถด้วยวิธีที่ถูกต้อง – ใช้น้ำยาล้างรถที่มีค่า pH เป็นกลาง ใช้ฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดและนุ่ม และไม่ควรล้างรถกลางแดดจัด
- หมั่นตรวจเช็คและบำรุงรักษา – นำรถเข้ารับบริการบำรุงรักษาชั้นเคลือบตามระยะเวลาที่ผู้ให้บริการแนะนำ