การดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีและสวยงามไม่ได้เพียงแค่ทำให้รถน่าขับเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษามูลค่าของรถอีกด้วย และแน่นอนว่าหนึ่งในบริการร้านคาร์แคร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ “ล้างเคลือบสี” ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้รถสะอาดเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องและรักษาสภาพสีรถให้คงความเงางามเหมือนใหม่ได้อีกด้วย บทความนี้ พี่เสือจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประโยชน์ของการล้างเคลือบสีรถ เปรียบเทียบการเคลือบแบบต่างๆ ราคาเริ่มต้น และแนวทางการเลือกบริการล้างรถที่เหมาะสมกับความต้องการ
การล้างรถเคลือบสีคืออะไร?
บริการล้างรถเคลือบสี คือ การรวมบริการทำความสะอาดรถเข้ากับการเคลือบสีรถ เพื่อทำความสะอาดและเคลือบผิวสีรถยนต์ ในการบริการหนึ่งครั้ง จึงสร้างความเงางามให้กับผิวสีรถภายนอก พร้อมเสริมชั้นปกป้องผิวสีรถจากปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำลายชั้นแลคเกอร์ (Clear Coat) ของรถ เช่น รอยขนแมว คราบสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองบน น้ำฝน และรังสี UV จากแสงแดด
ในเชิงเปรียบเทียบ บริการล้างรถทั่วไปอาจช่วยทำความสะอาดเพียงพื้นผิวภายนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การล้างรถพร้อมเคลือบสีจะให้ประโยชน์มากกว่าด้วยการเพิ่มชั้นป้องกันที่ช่วยรักษาสภาพสีรถให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ
การเคลือบสีรถช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เคลือบสีนั้นเป็นการสร้างชั้นป้องกันหรือเรียกกันว่า “Sacrificial Layer” บางๆ บนชั้นแลคเกอร์ (Clear Coat) ของรถ เพื่อป้องกันสีรถจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งสามารถสรุปข้อดีของล้างรถเคลือบสีได้ ดังนี้
-
ป้องกันคราบสกปรกในชีวิตประจำวัน
การเคลือบสีรถช่วยปกป้องผิวสีจากคราบสกปรกต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ดินโคลน น้ำฝน หรือแม้กระทั่งเศษยางมะตอยที่มักติดค้างบนตัวถังรถ ชั้นเคลือบจะทำหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างสีรถกับสิ่งสกปรกเหล่านี้ อีกทั้งยังสามารถป้องกันจากฝนกรด (มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน) รวมถึงมูลนกหรือคราบแมลงซึ่งมีเอนไซม์ที่สามารถกัดชั้นผิวแลคเกอร์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งชั้นเคลือบป้องกันไม่ให้สารเหล่านี้กัดกร่อนชั้นสีโดยตรง
-
ป้องกันรังสียูวี (UV Rays)
ชั้นเคลือบจะช่วยดูดซับหรือสะท้อนรังสียูวีจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สีรถซีดจางและทำให้ชั้นแลคเกอร์เสื่อมสภาพ แตก หรือเป็นฝ้าขาว ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ก็อาจต้องลงทุนทำสีรถใหม่กันเลยทีเดียว
-
เพิ่มความเงาและมิติของสีรถ
การเคลือบสีรถยังช่วยเพิ่มความเงางามให้กับรถยนต์ ทำให้รถดูแวววาวเหมือนใหม่ตลอดเวลา โดยสารเคลือบทำงานโดยการเข้าไปเติมเต็มร่องเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบนผิวรถ ทำให้พื้นผิวสีมีความเรียบเนียน แสงจึงตกกระทบและสะท้อนกลับมาได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้รถดูเงางามและมีความลึกของสีอย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น
-
คุณสมบัติไล่น้ำ (Hydrophobic Effect)
แวกซ์ ซีแลนท์ หรือซิลิโคนที่ใช้ในการเคลือบสีมีคุณสมบัติในการไล่น้ำ ทำให้หยดน้ำรวมตัวกันและไหลออกจากผิวรถอย่างลื่นไหล ช่วยลดการเกิดคราบน้ำฝังแน่น และทำให้การล้างรถง่ายขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ จากประเภทการเคลือบสีรถทั้งหมด การเคลือบแก้วรถนั้นถือว่ามีคุณสมบัติการไล่น้ำและคงความเงางามของสีรถได้ยาวนานที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเคลือบสีรถนั้นจำเป็นต่อการดูแลความสวยงามของรถยนต์อย่างมาก ทั้งช่วยยืดอายุชั้นแลคเกอร์ให้ยืนยาว ลดการสะสมคราบสิ่งสกปรก แถมช่วยให้ประหยัดเวลาในการล้างรถในแต่ละครั้งได้อย่างมาก การล้างรถเคลือบสีจึงถือเป็นหนึ่งบริการที่ไม่ควรมองข้าม
เปรียบเทียบเคลือบสี vs. ขัด-เคลือบสี vs. เคลือบแก้ว 9H
เมื่อไปที่ร้านคาร์แคร์หรือศูนย์บริการรถยนต์ อาจจะเจอกับตัวเลือกบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบสี ขัด-เคลือบสี หรือเคลือบแก้ว 9H ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของกระบวนการ ประสิทธิภาพ และราคา
การเคลือบสี
การเคลือบสีโดยปกติทั่วไปจะใช้สารเคลือบอย่างเช่น แวกซ์คาร์นูบา (Carnauba Wax), โพลิเมอร์ซีแลนท์ (Polymer Sealant) หรือที่เรียกกันว่าแวกซ์น้ำ และสารเคลือบซิลิโคน โดยผลิตภัณฑ์เคลือบสีแต่ละชนิดนั้นมีอายุการใช้งานแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งอายุคงอยู่ได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ ไปจนถึง 1-2 เดือน
ทั้งนี้ การเคลือบสีถือเป็นการดูแลรักษาสีรถแบบมาตรฐานที่สามารถพบได้ในศูนย์ทำความสะอาดรถทั่วไป รวมถึงเจ้าของรถสามารถซื้อผลิตภัณฑ์เคลือบสีมาทำเองที่บ้านได้เช่นกัน
![[PANTHERPARD] SEO OCT C01 2 4920x3284](https://www.pantherpard.com/wp-content/uploads/2025/10/PANTHERPARD-SEO-OCT-C01-2_4920x3284-scaled.webp)
การขัด-เคลือบสี
ในกระบวนการนี้ ถือเป็นการฟื้นฟูสภาพพื้นผิวสีรถ โดยจะเริ่มจากการขจัดชั้นแลคเกอร์หรือชั้นผิวบนสุดของสีรถที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ มีรอยขีดข่วน รอยขนแมว หรือรอยด่างออกไป โดยใช้อุปกรณ์และน้ำยาขัดเฉพาะทาง หลังจากนั้นจึงดำเนินการเคลือบสีรถด้วยแวกซ์และขัดเงา เพื่อสร้างชั้นฟิล์มป้องกันขึ้นมาอีกครั้ง เผยให้เห็นผิวสีเรียบเนียน สะอาด และไร้รอยขีดข่วน
พูดได้ว่า การขัด-เคลือบสีนั้นเหมาะกับรถที่ผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่ง โดยอาจมีรอยขีดข่วน สีหมองตามจุดต่างๆ หรือชั้นสีเสื่อมสภาพจากรังสียูวี
การเคลือบแก้ว 9H
เคลือบแก้วรถ หรือ Glass Coating คือ การใช้น้ำยาพิเศษที่มีส่วนผสมหลักอย่าง “ซิลิกา” (Silicon Dioxide – SiO2) เคลือบผิวรถยนต์ โดยสารชนิดนี้เป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในการผลิตแก้ว จึงมีคุณสมบัติในการสร้างชั้นป้องกันที่แข็งแรงและทนทานสูง เมื่อน้ำยาเคลือบแก้วแห้งตัวแล้ว จะกลายเป็นฟิล์มบางๆ ที่มีความแข็งตั้งแต่ระดับ 1H ถึง 9H ตาม Mohs Scale โดยที่ระดับ 9H ถือเป็นระดับการเคลือบแก้วที่แข็งที่สุด จึงให้การป้องกันที่เหนือกว่าการเคลือบสีรถทั่วไป และมีอายุใช้งานยาวนานตั้งแต่ 1-3 ปี
ในการเคลือบแก้วนั้น แนะนำให้เลือกใช้บริการเคลือบแก้วรถจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง PANTHERPARD ที่เลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลในทุกขั้นตอน
| บริการ | ผลิตภัณฑ์หลักที่ใช้ | ความแข็งแรงทนทาน | ความเหมาะสม | อายุการใช้งานเฉลี่ย |
| เคลือบสี | แวกซ์คาร์นูบา,โพลิเมอร์ซีแลนท์, ซิลิโคน | ต่ำ ชั้นฟิล์มอ่อนนุ่ม ละลายได้ง่ายเมื่อเจอความร้อนและสารเคมี | รถที่ใช้งานน้อย เจ้าของรถชอบความเงาฉ่ำแบบธรรมชาติ หรือต้องการการดูแลราคาประหยัดและทำเองได้บ่อย | 1-3 เดือน |
| ขัด-เคลือบสี | น้ำยาขัด และ แวกซ์หรือซีแลนท์ | ปานกลาง ความทนทานมาจากชั้นแว็กซ์/ซีแลนท์ ขั้นตอนขัดช่วยให้ผิวรถกลับมาเรียบเนียนก่อนปกป้อง | รถที่มีรอยขนแมวสะสม และต้องการฟื้นฟูสภาพสีให้เงางามก่อนการปกป้อง | 3-6 เดือน |
| เคลือบแก้ว 9H | สารซิลิกาไดออกไซด์ หรือ สารเซรามิก | สูง สร้างชั้นฟิล์มแข็งคล้ายกระจกบนผิวแลคเกอร์ ทนทานต่อการขีดข่วนเล็กน้อย ความร้อน และสารเคมีได้ดี | รถใหม่ป้ายแดง หรือ รถที่ใช้งานหนัก และต้องการการปกป้องสูงสุดเพื่อรักษามูลค่ารถในระยะยาว | 1-5 ปี |
ล้างรถเคลือบสีราคาเท่าไหร่?
คำถามที่หลายคนสนใจคือ ล้างรถเคลือบสีราคาเท่าไหร่ ซึ่งต้องบอกว่าราคาการล้างเคลือบสีจะแตกต่างกันไปตามประเภทของการเคลือบ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และการกำหนดราคาของศูนย์ทำความสะอาดรถแต่ละแห่ง
สำหรับการเคลือบสีแบบทั่วไปด้วยแว็กซ์หรือโพลิเมอร์ ราคามักเริ่มต้นระหว่าง 300-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดรถยนต์และ ”ร้านคาร์แคร์ ล้างอัดฉีด อบโอโซน ใกล้ฉัน” ที่เปิดให้บริการ ส่วนการขัด-เคลือบสีจะมีราคาที่สูงขึ้น โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1,500-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดรถยนต์ สภาพของรถ และความยากง่ายในการขัด
ส่วนการเคลือบแก้วรถจะมีราคาสูงที่สุด เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการเคลือบที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุด ราคาเริ่มต้นอยู่ตั้งแต่ประมาณ 5,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ คุณภาพความคงทน และขนาดของรถ ซึ่งแม้ราคาจะสูงแต่หากพิจารณาจากความทนทานที่อยู่ได้หลายปี การเคลือบแก้วอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาศูนย์บริการล้างรถเคลือบสีที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไว้ใจให้ศูนย์ PANTHERPARD ล้างรถพี่เสือวิ้ง ดูแลรถยนต์ของคุณแบบครบวงจร ด้วยบริการครบครันแบบที่เดียวจบ
บริการทำความสะอาดรถครบวงจรที่ PANTHERPARD
![[PANTHERPARD] SEO OCT C01 3 5808x3876 (1)](https://www.pantherpard.com/wp-content/uploads/2025/10/PANTHERPARD-SEO-OCT-C01-3_5808x3876-1-1-scaled.webp)
สำหรับท่านที่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกทำความสะอาดรถยนต์ด้วยตนเอง พี่เสือ PANTHERPARD นำเสนอบริการทำความสะอาดรถยนต์ที่คุ้มค่าและมีคุณภาพ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ อุปกรณ์เฉพาะทาง และนำเสนอบริการที่ครบวงจรที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการล้างรถดูดฝุ่น ขจัดล้างยางมะตอย อบโอโซน เคลือบกระจก เคลือบแก้วรถ ขัด-เคลือบสี ทำความสะอาดเบาะ-พรม ไปจนถึงบริการเสริมอย่างการติดฟิล์มกรองแสง และเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
PANTHERPARD เปิดให้บริการถึง 12 สาขาทั่วไทยในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สะดวกต่อการเดินทาง เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด โดยสามารถสมัครสมาชิก สะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษ พบกับสินค้าและโปรโมชันดีๆ ได้ตลอดทั้งปี
ติดต่อจองคิว สอบถามบริการ PANTHERPARD
LINE Official: @pantherpard (https://lin.ee/Tt6ahYz)
โทร.: 06-1597-9749
ติดตามข่าวสารและอัปเดตใหม่ๆ จากพี่เสือวิ้งได้ที่
Facebook: www.facebook.com/profile.php?id=61553108858289
Instagram: www.instagram.com/pantherpard/
TikTok: www.tiktok.com/@pantherpard